ศูนย์วิจัยกสิกรไทยปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 64 ขึ้นมาเป็น 0.2% มองปีหน้าขยายตัว 3.7% ยังมีความเสี่ยงจากราคาน้ำมันและเงินเฟ้อ

2

หน่วยงานวิจัยเกษตรกรไทยดูเศรษฐกิจไทยปี 2564 ดีกว่าเดิม รับคลายล็อกดาวน์แล้วก็มาตรการเปิดประเทศที่เร็วกว่าที่ดูไว้เดิม ข้างหลังผู้กระทำระจายวัคซีนที่รีบตัวขึ้นกว่าที่ประเมินเอาไว้ในส.ค. 2564

ข่าวเศรษฐศาสตร์ นอกเหนือจากนี้ เศรษฐกิจไทยยังมีแรงส่งจากผลของการเบิกจ่ายภาครัฐที่ออกมาดียิ่งกว่าคาดด้วย ผลจากการคลายล็อกดาวน์และก็การเปิดประเทศที่เร็วขึ้นนี้ ทำให้ปรับเพิ่มคาดหมายปริมาณนักเดินทางต่างประเทศมากขึ้นนิดหน่อยจาก 1.5 แสนคน มาเป็น 1.8 แสนคน ด้วยเหตุนี้ ในรูปภาพรวมแล้ว ก็เลยทวนคาดคะเนเศรษฐกิจไทยปี 2564 โดยปรับเพิ่มเดาขึ้นจากหดตัว -0.5% มาอยู่ที่ 0.2% แม้กระนั้น ผลพวงจากน้ำหลากแล้วก็ภาระหน้าที่การเลี้ยงชีพที่สูงขึ้นจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้นเป็นอย่างมาก ตลอดจนการเสี่ยงที่การกระจายเชื้อในประเทศจะกลับมาข้างหลังเปิดประเทศยังเป็นต้นเหตุที่ทำให้การปรับคาดการณ์เศรษฐกิจในปี 2564 เป็นไปอย่างจำกัดจำเขี่ย เพิ่มอีกข้อความสำคัญผลพวงจากน้ำหลาก โดยเห็นว่าผลพวงส่วนมากคงจะอยู่ด้านในปี 2564 โดยเหตุการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในตอนกันยายนถึงเดือนตุลาคม 2564 คาดว่าจะทำความเสียหายให้กับอีกทั้งภาคเกษตร ซึ่งคงจะกระทบทั้งปวงราว 6-7 ล้านไร่ รวมทั้งนอกภาคเกษตร ที่สำคัญเป็น ภาคบริการและก็แรงงานรับจ้างรายวันที่ได้รับผลพวงจากการที่ธุรกิจหยุดชะงักลงบางพื้นที่ในกว่า 30 จังหวัด ด้วยเหตุนี้ โดยรวมแล้ว คาดว่ากระทบเศรษฐกิจไทยราวๆ 2.5 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 0.16% ของจีดีพี ซึ่งน้อยกว่าสถานะการณ์น้ำหลากในปี 2551, 2553 แล้วก็ 2560 ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา รวมทั้งได้รวมผลพวงข้างต้นในประมาณจีดีพีปี 2564 แล้ว

2

ส่วนปี 2565 นางสาวณัฐพร คิดว่า เศรษฐกิจไทยจะฟื้นที่ 3.7% จากความครอบคลุมของประชาชนที่กำลังจะได้รับวัคซีนเกินกว่า 70%

ข่าวเศรษฐศาสตร์ ซึ่งจะช่วยลดสิ่งที่ต้องการที่จะจะต้องใช้มาตรการล็อกดาวน์ลง แล้วก็การดำเนินธุรกิจไม่หยุดชะงัก นอกนั้น ยังมีสาเหตุหนุนจากการส่งออก การใช้จ่ายครอบครัวที่ฟื้นจากฐานที่ต่ำรวมทั้งการกลับมาบริโภคภายหลังกลั้นเอาไว้ภายในตอนล็อกดาวน์ ในช่วงเวลาที่ สิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงจะอยู่ที่ราคาพลังงานสูงรวมทั้งเงินเฟ้อ แต่ เศรษฐกิจไทยยังมิได้ไปสู่สภาวะ Stagflation โดยดูเงินเฟ้อในปี 2565 ที่ 1.6% บนข้อจำกัดที่ราคาน้ำมันโลกมิได้ยืนอยู่ในชั้นสูงมากยิ่งกว่า 100 ดอลลาร์ฯ ต่อบาร์เรลเป็นระยะเวลายาวตลอด สำหรับผลพวงต่อรองราคาน้ำมันสูงต่อธุรกิจในปี 2564 นางสาวเกวลิน คิดว่า ในเรื่องที่ราคาน้ำมันดีเซลในระยะที่เหลือของปีนี้ อยู่ในตอน 25.0-29.2 บาทต่อลิตร จะก่อให้เงินลงทุนการสร้างของภาคธุรกิจ มากขึ้นราวๆ 0.55-0.73% แล้วก็ทุนขนส่งมากขึ้นราวๆ 0.33-0.44% หรือรวมกันธุรกิจจะมีต้นทุนเฉลี่ยมากขึ้นราว 1% แม้กระนั้นท่ามกลางภาวการณ์ที่ราคาน้ำมันจำพวกอื่นๆปรับขึ้นแรงกว่าน้ำมันน้ำมันดีเซลที่ยังมีกลไกการดูแลราคาจากภาครัฐ รวมทั้งการที่ทุนอื่นๆโน้มมากขึ้นในภาวการณ์ที่ยอดจำหน่ายยังไม่กลับมา ก็ย่อมจะเพิ่มปัญหาการฟื้นฟูสภาพให้กับภาคธุรกิจ ในเวลาที่ ยังจำเป็นต้องติดตามเหตุการณ์ราคาน้ำมันต่อในปีต่อไปด้วย

แนะนำข่าวเศรษฐศาสตร์ อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย :  กูรูมอง GDP ไทยแนวโน้มยังดูดีกว่าหลายประเทศในโลก